มาตกแต่งผนังบ้านด้วยภาพปลาคาร์ฟแก้ฮวงจุ้ยกัน!!

ภาพปลาคาร์ฟแก้ฮวงจุ้ย

       

              ปัจจุบันโลกเราเปลี่ยนไปเยอะ ยิ่งนานวันพื้นที่ใช้สอย กลับน้อยลงเรื่อยๆ แทบจะไม่มีที่ให้เดินเลย หากจะต้องมีการวางสิงห์หรือกิเลนเพื่อแก้ฮวงจุ้ยอีก  จะทำให้พื้นแคบลงโดยไม่สามารถวางหรือกำหนดจุดการแก้ฮวงจุ้ยได้ เลย สถานที่ตัวอย่างเช่น คอนโด ทาวน์เฮ้า บ้านเช่า หรือแม้กระทั้งร้านค้าที่เช่าล็อคต่างๆ ด้วยปัญหาเหล่านี้เองจึงได้มีการนำหลักฮวงจุ้ย เข้ามาแก้ โดยอาศัยภาพเขียนหรือภาพพิมพ์กรอบลอย  เรามาดูกันว่าความหมายแต่ละภาพเป็นอย่างไรกันบ้าง เริ่มจาก

          ปลา เป็นสัตว์มงคล เพราะคำว่า หยู ที่หมายถึงปลา พ้องเสียงกับคำว่า หยู ที่หมายถึงความอุดมสมบูรณ์ ปลาจึงเป็นสัญลัษณ์ของความมั่งคั่ง เด็กกับปลา จะหมายถึง “ขอให้จงมีความมั่งคั่งอุดมสมบูรณ์จากลูกชายที่ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น”

          ปลาคาร์ฟ มาจากคำว่า “หลี่” หมายถึง ผลกำไรหรือประโยชน์ ปลาคาร์ฟ จึงเป็นสัญลักษณ์ของความปรารถนาจะได้ผลกำไรหรือประโยชน์จากการทำธุรกิจ ภาพปลาคาร์ปว่ายทวนน้ำ เป็นของมงคลที่นิยมกันมากไม่แพ้อย่างอื่น เพราะปลาคาร์ปนั้นเป็นปลาที่ชอบว่ายทวนกระแสน้ำ เหมือนกับการที่คนเราไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคต่าง ๆ นานา โดยตามความเชื่อของชาวจีนนั้นมีตำนานว่าหากปลาคาร์ปตัวใดสามารถว่ายทวนน้ำไปจนถึงต้นน้ำได้แล้วจะกลายเป็นมังกร นั่นก็หมายถึงว่าเมื่อไรที่เรามีความตั้งใจ ความพยายามก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด 
 

      

          ดอกบัว หมายถึง “ขอจงมีบางสิ่งอยู่ทุกปี” ปลาทอง คำว่าปลาทองในภาษาจีนมีเสียงพ้องกับคำที่หมายถึง “ มีทองล้นหลาม”ปลาทองจึงมักจะเป็นของขวัญสำคัญอีกอย่างที่นิยมมอบให้กันในวันมงคลต่างๆ

การแก้ฮวงจุ้ยชนิดต่างๆ

 

ชีวิตแห้งแล้ง

                ความเป็นอยู่ในบ้านมิได้ลำบากมาก แต่จิตใจแห้งแล้งขาดชีวิต ชีวา บางครั้งเงินทองก็ติดขัด ไม่ราบรื่น คนในบ้านไม่มีความสดชื่น กระตือรือร้น

วิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ย:   ให้ เลี้ยงปลาตู้สวยงามประดับบ้าน หรือให้ใช้ภาพที่มีปลาเวียนว่ายอยู่ก็ทดแทนกันได้เช่นกัน เลือกให้มีปลาเงิน-ปลาทอง ร่วมด้วยยิ่งดี จำนวนปลาที่จะเลี้ยงควรเป็น 6 ตัว 8 ตัว หรือ 9 ตัว ถือว่าเป็นมงคล คนในบ้านจะมีจิตใจแจ่มใสขึ้น ฐานะการเงินก็จะดีขึ้น มีโชคมีลาภไม่ขาด แต่ต้องดูแลตู้ปลา ให้สะอาดสดใสอยู่เสมอ
 

คนในบ้านไม่สดชื่น

วิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ย:  ถ้า อยากให้คนในบ้านอยู่อาศัยอย่างมีความสุขสันต์ ชีวิตเต็มไปด้วยความรื่นเริงเบิกบานสดชื่น ไม่ต้องมีแต่เรื่อง หดหู่เป็นกังวล ควรหารูปภาพอันสดใสของทุ่งหญ้าในฤดูร้อน ทิวเขาในยามเช้า แม่น้ำ ทะเล หรือน้ำตกท่ามกลางแสงตะวัน ที่อบอุ่นสดใสมาติดแขวนไว้ที่ผนังห้องรับแขกอาจหารูปภาพฤดูใบไม้ผลิมาประดับ ผนังก็ได้ ควรเลือกภาพที่มีบรรยากาศ ธรรมชาติ มีไม้ดอกไม้ใบสวยๆ และอุดมสมบูรณ์ เพราะยิ่งจะเสริมส่งดวงโชคและทรัพย์ของคนในบ้านอีกด้วย
 

ขาดแคลนเงินทอง

วิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ย:   หา สัญลักษณ์แห่งความมั่งคั่งร่ำรวยมาประดับบ้าน เช่น หาภาพวาดหรือลวดลายบนพื้นกระเบื้อง-ผ้าม่าน ที่เป็นรูปดอกไม้ รูประลอกน้ำ รูปกวางมาจัดแต่งบ้าน หา ฮก ลก ซิ่ว มาตั้งไว้บนชั้นในห้องรับแขก เลี้ยงปลาทองในตู้กระจก หรือโถแก้วเพื่อเรียกโชคลาภเงินทอง
 

สามี-ภรรยา ห่างเหิน

วิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ย:   จัด ห้องนอนให้สะอาดและมีบรรยากาศที่รื่นรมย์ เครื่องนอนควรใช้สีอ่อน ๆ สบายตา หาดอกไม้และโคมไฟสีอ่อน มาไว้ที่โต๊ะใกล้เตียง ตัดรูปภาพวิวทิวทัศน์ที่สวยงามสบายตาไว้ที่ข้างฝา อย่านำโต๊ะทำงานหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ มาวางใกล้เตียงมากนัก ห้องนอนที่รกเลอะเทอะและเต็มไปด้วยข้าวของเครื่องใช้มากมาย ถือว่าไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย จะส่งผล ให้คู่สามี-ภรรยา หงุดหงิดและขาดอารมณ์หวานชื่นในรัก
 

แต่งห้องนั่งเล่น

         ห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขกที่ตกแต่งรกรุงรัง เช่น แขวนรูปภาพต่างๆ ไว้จนเต็มฝาผนังบ้าง ตั้งวางตู้ชั้น และข้าวของต่างๆ จนแน่นเต็มเนื้อที่จนทำให้ดูรกตาหรือนั่งแล้วอึดอัด เดินเหินก็ไม่สะดวกถือว่า ผิดฮวงจุ้ย อยู่อาศัยแล้วไม่รุ่งเรือง มีแต่ความวุ่นวายกังวล ขาดความกระตือรือร้นที่จะสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้ชีวิต และสามี-ภรรยามักจะแตกแยก

วิธีแก้เคล็ดฮวงจุ้ย:   ควรเก็บของรกๆ ทิ้งไป จัดแต่งห้องรับแขกใหม่ให้โปร่งโล่งดูสบายตาและสบายตัว

 

เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com

จะทำอย่างไรให้บ้านดูน่าอยู่เหมือนตอนเข้ามาอยู่ใหม่ๆ เรามีคำตอบให้คุณ

                           เมื่อ เราอยู่บ้านหลังเดิมสักพัก อาจเกิดอาการเบื่อบ้านชึ้นมาเฉยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ จะทำอย่างไรให้บ้านดูน่าอยู่เหมือนตอนเข้ามาอยู่ใหม่ๆ นะ ไม่ยากเลยค่ะ

             ถ้า อยากปรับเปลี่ยนบ้านหลังเดิมให้ดูสบายๆ โดยไม่ต้องเสียเงินเสียทองมากมายหรือทำอะไรให้มันยุ่งยากจนเกินไป แค่ลองโยกย้ายเฟอร์นิเจอร์ เพิ่มของใช้บางอย่าง หรือภาพพิมพ์กรอบลอยติดผนัง ก็ช่วยทำให้บ้านคุณดูผ่อนคลาย ไม่น่าเบื่อ เหมือนได้บ้านหลังใหม่เลยทีเดียว มาลองทำกันดูเลยดีกว่า


A. แสงสว่างนุ่มนวลสบายตา
แสง สว่างภายในห้องนั่งเล่นก็สำคัญไม่น้อย ถ้าคุณใช้มุมนี้ไว้สำหรับอ่านหนังสือด้วย ก็ควรหาโคมไฟมาตั้งไว้ แสงสว่างจากโคมไฟนอกจากจะช่วยถนอมสายตาของคุณแล้ว ยังช่วยสร้างบรรยากาศอบอุ่น นุ่มนวลภายในห้องของคุณ

B. ตกแต่งผนังให้ดูเก๋
             ผนัง ไม้สีดำเข้ม ลองเพิ่มรายละเอียดเล็กๆ เช่น เดินกรอบโดยรอบด้วยคิ้วไม้ กรอบภาพติดผนัง หรือภาพพิมพ์กรอบลอย จะช่วยทำให้ผนังดูหรูหราและลดทอนความแข็งกร้าวลงไปได้มาก แล้วติดรูปถ่ายเก๋ๆ ไว้ตรงกลางเป็นแนวยาวจนสุดผนัง ก็จะได้แกลลอรี่ขนาดย่อมที่สวยเก๋ โดยที่ไม่ต้องไปหากรอบรูปราคาแพงมาแขวนให้ยุ่งยาก



C. เพิ่มพรมชิ้น นุ่มสบายเท้า
           ถ้า อยากได้ห้องนั่งเล่นที่ดูสบายๆ และเป้นกันเอง แนะนำให้ใช้พรมชิ้นที่สัมผัสนุ่มสบายเท้า ซึ่งจะช่วยทำให้ห้องดูอบอุ่นขึ้นทันที ควรเลือกพรมที่มีขนาดใหญ่เกินขนาดของโซฟาเล็กน้อยประมาณ 20-30 เซนติเมตร โดยประมาณ พรมชิ้นเหล่านี้ นอกจากจะช่วยทำให้ห้องนั่งเล่นดูอบอุ่นขึ้นแล้ว คุณยังสามารถใช้พรมเป็นที่นั่งเวลามีเพื่อนมาเยี่ยมเยียนได้อีกด้วย โดยการหาเบาะรองนั่งนุ่มๆ มาวางบนพรม



D. แสงสว่างในห้องนอน
           ผ้า ม่านที่ใชในห้องนอนควรเลือกแบบ 2 ชั้น คือ มีผ้าโปร่งและผ้าทึบ ผ้าโปร่งจะช่วยกรองแสงสว่างได้ในยามเช้า เพื่อให้มีแสงแดดลอดเข้ามาได้ในส่วนหนึ่ง เพราะถ้ามีแต่ผ้าทึบอาจทำให้ห้องนอนดูมืดจนเกินไป จะทำให้คุณไม่อยากตื่นนอน และเกิดอาการง่วงซึมตลอดทั้งวัน ส่วนแสงไฟภายในห้องควรใช้โคมไฟวางตามจุดต่างๆ แทนการฝังไฟดาวน์ไลท์ตามฝ้าเพดานหรือผนังบริเวณหัวเตียงเพราะแสงไฟจะแยงตาใน ขณะที่นอนได้มากกว่า เช่น บริเวณหัวเตียงหรือโต๊ะแต่งตัว เพื่อสร้างบรรยากาศให้ห้องนอนดูผ่อนคลายมากขึ้น

E. กลิ่นหอมสร้างความผ่อนคลาย
           กลิ่น หอมต่างๆ จะช่วยทำให้คุณหลับสบายมากขึ้นและตื่นมาด้วยความสดชื่น ลองเพิ่มดอกไม้หรือจุดเทียนหอมก่อนนอนสักครึ่งชั่วโมง หลังจากที่ดับเทียนแล้วกลิ่นก็จะยังคงกระจายอยู่ภายในห้อง ช่วยสร้างความผ่อนคลายได้มาก แต่ถ้าใครไม่อยากวุ่นวายต้องมานั่งจุดเทียนแล้วล่ะก็ สมัยนี้มีหมอนที่มีกลิ่นหอมในตัวด้วยการสอดไส้ถุงชาหรือกลิ่นดอกไม้ต่างๆ เอาไว้ด้วย ชอบแบบไหนก็เลือกกันได้ตามใจชอบเลยค่ะ  

G. อาหารเช้าบนเตียง
ทุกๆ วันหลังจากตื่นนอนตอนเช้าก็จะต้องแย่งกันเข้าห้องน้ำเพื่อทำภาระกิจต่างๆ เพื่อที่จะออกไปทำงาน ลองหาเวลาสักวันตื่นเร็วขึ้นอีกนิดแล้วเสริฟอาหารแบบง่ายๆ ที่ไม่มีกลิ่นฉุนพร้อมดอกไม้ช่อเล็ก เท่านี้เช้าวันใหม่ของคุณและคนพิเศษก็จะสดใสไปทั้งวัน

เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com

           บ้าน คือ สถานที่ที่มีความหมายต่อชีวิตครอบครัว บ้านที่ผ่อนคลายมีผลต่อจิตใจที่ผ่อนคลายของสมาชิกภายในบ้านตามไปด้วย นอกจากนี้ความสะดวกสบายภายในบ้าน การออกแบบที่ลงตัว การดูแลรักษาความสะอาดภายในบ้าน ล้วนแต่มีผลต่อสุขภาพของสมาชิกภายในบ้าน ถึงแม้ว่าบ้านที่เราอยู่อาศัยจะมีขนาดเล็ก เราต้องใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด การแต่งบ้านจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญที่ทำให้บ้านดูสะอาดตา ในพื้นที่ที่จำกัด วันนี้มีเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้บ้านหลังน้อยของของเรา ดูสวยและสะอาดตาได้ไม่แพ้บ้านหลังใหญ่ 




1. โปร่งโล่ง สบาย
          
 
      ใน ความหมายของคำว่า โปร่งโล่ง สบาย คือการที่เราทำให้บ้านมีพื้นที่ว่างให้มากที่สุดวิธีที่ง่ายที่สุดคือการนำ เอาทุกอย่างชิดผนังให้หมดอาจใช้ชั้นติดผนังหรือตู้ติดผนังไว้เก็บของ จากนั้นเราก็วางโต๊ะ เก้าอี้ สไตล์ Retro ตัว เอกของบ้านไว้ตรงกลางเพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องที่กว้างสมดังใจ สำหรับโถงชั้นล่าง หรือโถงอเนกประสงค์ถูกเปิดทะลุถึงกันจาก ห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และ ห้องทำงานเพื่อเพิ่มเนื้อที่ในบ้านให้ดูกว้างขึ้นหลักการนี้เรา ที่เรียกว่า CombineSpace หรือ Open Space นอก จากนี้การใช้กระจกใสเป็นผนังห้องทำให้เกิดความโล่งสบาย โปร่งตาในทุกห้อง ความเด่นอยู่ที่การดูแล ความกลมกลืนของเครื่องเรือนทุกชิ้นที่หยิบมาวางอย่างบรรจงในทุกจุด


2. แสงธรรมชาติ
                          
  
         แสง ธรรมชาติเป็นสิ่งที่ถูกนำมาใช้เพื่อให้บ้านขนาดเล็กดูกว้างใหญ่ขึ้นได้โดย การเจาะช่องหน้าต่างให้ใหญ่ที่สุด และเยอะที่สุดเพราะนอกจากหน้าต่างที่กว้างจะเป็นการเปิดรับแสงธรรมชาติแล้ว ยังเป็นช่องลมให้ภายในบ้านเย็นสบายยิ่งขึ้นอีกอย่างหน้าต่างที่กว้างยังจะ เป็นตัวนำสายตาให้มองออกไปข้างนอกไม่ถูปิดกั้นจึงทำให้บริเวณบ้านดูเหมือน กว้างขึ้นการเปลี่ยนกระเบื้องมุงหลังคาเป็นกระเบื้องชนิดโปร่งแสงบริเวณ บันไดและห้องน้ำ ก็เป็นวิธีง่ายๆที่ทำให้บ้านเปิดรับแสงธรรมชาติ เพราะเมื่อห้องยิ่งสว่างยิ่งดูกว้าง


3. ตู้เก็บของมหัศจรรย์
                    

       ห้อง เก็บของหรือตู้เก็บของเป็นสิ่งสำคัญสำหรับบ้านแต่เป็นสิ่งที่มักจะถูกมอง ข้ามโดยเฉพาะบ้านหลังเล็ก มักจะมีข้ออ้างว่าไม่มีพื้นที่อันนี้ขอแนะนำว่าคุณอาจทำตู้ติดผนังขนานไปกับ ทางเดินหรือใต้บันไดก็สามารถทำเป็นตู้เก็บของหรือห้องเก็บของได้และเมื่อไร ก็ตามที่คุณมีของที่ไม่ใช้ ไม่รู้ว่าจะไปเก็บไว้ที่ไหนดีตู้เก็บของหรือห้องเก็บของนี่แหละช่วยได้อย่าง น่าอัศจรรย์เพราะจะเป็นที่ที่คุณเก็บทุกอย่างที่ไม่ต้องการในขณะนั้นและบ้าน คุณก็จะเป็นระเบียบ ดูกว้างขึ้น น่าอยู่ขึ้นรวมทั้งสะดวกในการหยิบใช้อีกด้วย

4. เฟอร์นิเจอร์อเนกประสงค์

            
        เฟอร์นิเจอร์ ในบ้านเป็นสิ่งสำคัญมากเราจึงต้องพิถีพิถันในการเลือก ปัจจุบันวิถีชีวิตของคนส่วนใหญ่เป็นสังคมเมืองมากขึ้นการออกแบบในสไตล์ minimal จึง ถูกหยิบยกมาใช้เป็นหลักในการออกแบบมากขึ้นแต่ด้วยฟังก์ชั่นของบ้านหลังเล็ก ที่ต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่ามากที่สุดงานดีไซน์จึงถูกประยุกต์ให้ดูสะอาดตา และมีฟังก์ชั่นในตัวเองทำให้ประหยัดเนื้อที่ แต่เพิ่มประโยชน์ในการใช้สอย ไม่ว่าจะเป็นmini kitchen ที่มีส่วนยื่นพับเก็บในตัวได้สามารถใช้แทนส่วนเตรียมอาหารไปจนถึงใช้แทนโต๊ะ รับประทานอาหาร หรือ sofa bedโซฟาที่สามารถปรับเป็นเตียงนอนได้เหล่านี้ซึ่งจะใช้พื้นที่น้อยและทำให้ บ้านดูมีเสน่ห์อีกด้วย


5. เติมเสน่ห์ให้กับบ้าน
                    

       

       การ เติมเสน่ห์เล็ก ๆ น้อยๆ ให้กับบ้านเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพราะ เสน่ห์เล็ก ๆ น้อย ๆเหล่านี้แหละมีส่วนทำให้บ้านมีชีวิต หลายคนคงคิดว่า เสน่ห์เล็ก ๆ น้อย ๆ คืออะไรคำตอบง่ายมาก ..คือ ทุกอย่างที่อยู่รอบตัวคุณ ..คือสิ่งต่างๆ ที่คุณสะสมมันเป็นเหมือน ตัวตนของคุณเองและมีเสน่ห์ในตัวเอง เช่น หากคุณเป็นช่างภาพคุณก็จะมีภาพที่คุณประทับหลายภาพ ภาพเหล่านี้แหละเรานำมาติดตามผนังหรือแม้กระทั้งผนังข้างบันได เท่านี้ บ้านของคุณก็จะเป็น gallery ของคุณด้วย

แหล่งที่มา : www.bareo-isyss.com

เรียบเรียงโดย ร้าน It me art

สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com

อยากรู้ไหมว่าของแต่งบ้านมาแรงกรอบลอยคือ? กรอบลอยราคาเท่าไหร่?

ร้าน It me art จะมาอธิบายให้ฟังทีละข้อเลยจ้าาา ^___^
1.กรอบลอยคือ?
       เป็นคำถามที่ใครหลายคนคงสงสัยไม่คุ้นหูกันเลยว่า กรอบลอยมันคืออะไร
         
                    กรอบลอยแบบที่ 1มอง จากด้านหน้า จะเหมือนกับกรอบลอยโครง แต่ถ้ามองด้านข้าง ความหนาของกรอบ จะแค่ประมาณ 1 เซนติเมตร เป็นไม้ทั้งแผ่น ค่อนข้างหนัก จะเหมาะกับกรอบขนาดเล็ก ๆ หน้าตาแบบนี้
                  ข้อดีคือ  ทนทานแข็งแรง ถึงแม้จะมีน้ำหนักเยอะไปหน่อย ทั้งนี้เพราะกรอยลอย ร้าน It me art   ทำจากไม้อัดเน้นๆทั้งแผ่น ,ขนย้ายสะดวก,ติดตั้งง่าย,ทำความสะอาดง่ายและราคาไม่แพงสามารถสั่งซื้อได้ง่ายสะดวกเพียงโทรมาที่ กระเจี๊ยบ 086-2808147


      



             
          
                      กรอบลอยแบบที่ 2 เรียกว่า กรอบลอยตีโครง (กรอบลอยโครง ตามแต่จะเรียก)
ลักษณะ ของกรอบคือ เป็นกรอบที่ไม่มีขอบ แต่จะดูมีมิติ เพราะว่ากรอบจะมีความหนา ประมาณ 1 นิ้ว (หนาจากโครงของกรอบ ไม่ใช้ไม้ทั้งแผ่น) ไม่หนักมาก ตรงขอบ สามารถเลือกได้ ว่าจะให้มีสีดำ หรือ ว่าสีขาว กรอบลอยแบบนี้ สามารถทำได้ทั้งเล็กและใหญ่ สวยงาม น้ำหนักไม่มาก

               


2.กรอบลอยราคาท่าไหร่ ?

            ราคากรอยลอย ไม่แพง ราคาถูก ซื้อไปแต่งบ้านได้สบายๆ  คุ้มสุดๆ เพราะ ภาพกรอบลอยร้าน It me art 1 ชุด มี 3 ภาพหรือ 4 ภาพ คุ้มกว่านี้ไม่มีอีกแล้วจ้าาาาา  รู้อย่างนี้แล้วต้องหามาติดสักชุดแล้วล่ะ ^^



เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com
   

อยากรู้ตำนาน แมวกวักเงินทอง แมวกวักนำโชค (Maneki Neko) กันไหมค่ะ

          ตำนาน แมวกวักเงินทอง แมวกวักนำโชค (Maneki Neko)
        ความเชื่อเรื่องโชคลาง ไม่ได้มีกันอยู่แต่ในหมู่ชาวไทยเท่านั้น เจ้าแห่งเทคโนโลยีอย่างชาวญี่ปุ่น ก็ยังต้องมีที่พึ่งทางใจคอยเสริมโชคลาภอยู่เหมือนกันนะ มาเนกิ เนโกะ (Maneki Neko) แมวกวัก หน้าตาน่ารัก จึงมีปรากฎให้เห็นอยู่ทั่วไปไม่เว้นแม้แต่ในเมืองไทยบ้านเรา จนกลายเป็นแมวน้อยยอดฮิตที่ต้องมีติดบ้าน และร้านค้าไปซะแล้ว
 
ตำนานแมวเช็ดหน้า

           เป็น ตำนานที่มาจากความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ที่ว่า หากแมวยกแขนขึ้นมาคลอเคลียที่ใบหน้า แปลว่าจะมีแขกมาหา ดังนั้นจึงเกิดการสร้างตุ๊กตาปั้น รูปแมวกวักขึ้น โดยยกแขนข้างหนึ่งเอาไว้ให้เหมือนเป็นการคลอเคลียที่ใบหน้า เพื่อหวังให้มีแขกมาหาตามความเชื่อ ซึ่งแขกในที่นี้หมายถึง ลูกค้าที่จะเข้าร้านมาซื้อของนั่นเอง

           ด้วยเหตุนี้ ชื่อเรียก มาเนกิ เนโกะ (Maneki Neko) จึงมีความหมายตรงตัว ว่า แมวกวัก หรือแมวนำโชค เป็นชื่อที่เป็นสิริมงคล ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น
การยกแขน


           ถ้าสังเกตดี ๆ จะพบว่า แมวกวัก มาเนกิ เนโกะ นั้น มีลักษณะท่าทางในการยกแขนอยู่หลายแบบด้วยกัน โดยมีความหมายดังนี้

1. ยกแขนขวา หมายถึง เป็นการกวักเรียกเงิน เรียกทอง และโชคลาภ

2. ยกแขนซ้าย หมายถึง เป็นการกวักเรียกลูกค้าให้เข้าร้าน ขายดิบขายดี

3. ยกแขนทั้งสองข้าง หมายถึง การกวักเรียกทั้งเงินทอง โชคลาภ และเรียกลูกค้าให้เข้าร้านไปพร้อม ๆ กัน
 

เครื่องประดับ

          1. ปลอกคอ ส่วนใหญ่จะเป็นสีแดง มีกระดิ่งห้อยอยู่ โดยเชื่อว่าถ้าห้อยกระดิ่งไว้แมวจะไม่หนีไปไหน โชคลาภก็จะไม่หายไปด้วย

          2. ผ้าพันคอ ไว้ช่วยปัดเป่าโรคภัย โดยเชื่อว่าได้แรงบันดาลใจมาจาก พระโพธิสัตว์จิโซ โบซัสสุ พระโพธิสัตว์ผู้พิทักษ์เด็ก ที่เป็นเคารพนับถือของชาวญี่ปุ่น ซึ่งตามความเชื่อว่าพระโพธิสัตว์จิโซ จะช่วยปัดเป่าโรคภัยไข้เจ็บ และชาวบ้านจะนำผ้าพันคอไปพันไว้ที่รูปปั้นหินของท่านเป็นการตอบแทน

          3. เหรียญทอง มาเนกิ เนโกะ ส่วนใหญ่จะถือเหรียญทองสมัยเอโดะไว้ในมือ เพื่อเรียกเงิน เรียกทอง และความโชคดี บางครั้งอาจเปลี่ยนจากเหรียญทองเป็นแบงค์ แต่ให้ความหมายเดียวกัน
 

ความหมายของสี

          1. แบบ 3 สี เป็นที่นิยมมากที่สุด โดยแมวกวักจะมีลำตัวเป็นสีขาว มีลายจุดสีดำ พื้นส้ม ตามแบบฉบับของแมวหางกุดสายพันธุ์โบราณที่หายากในญี่ปุ่น (Japanese Bobtail Cat) โดยเชื่อว่าสีสัน และลวดลายดังกล่าว เป็นสัญลักษณ์แห่งความโชคดีที่หาได้ยาก

          2. สีขาว หมายถึง ความบริสุทธิ์ ป้องกันไสยศาสตร์ ภัยมืด

          3. สีดำ หมายถึง สีแห่งสุขภาพดี คอยปัดเป่าความชั่วร้าย ผู้หญิงญี่ปุ่นมักนิยมสีนี้ เนื่องจากเชื่อว่าจะช่วยขับไล่ผู้ไม่หวังดี และเหล่ามิจฉาชีพ

          4. สีแดง หมายถึง ความคุ้มครอง ที่สามารถไล่ภูติผีวิญญาณได้

         5. สีทอง หมายถึง การเรียกเงินเรียกทอง มั่งคั่ง ร่ำรวย

          6. สีเงิน หมายถึง สุขภาพที่แข็งแรง อายุยืนยาว เหมาะกับผู้สูงอายุ หรือ คนเจ็บป่วย

          7. สีเหลือง หมายถึง การช่วยให้คู่รักรักกันได้ยืนยาวตลอดไป ไม่ทะเลาะเบาะแว้ง

            8. สีชมพู เป็นสีที่ไม่ได้มีมาตั้งแต่แรก แต่เพิ่งได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยหมายถึง การให้โชคด้านความรัก เนื้อคู่

             9. สีม่วง หมายถึง พลังแห่งศิลปะ

          10. สีเขียว หมายถึง ให้พลังความสำเร็จในเรื่องการศึกษา
 
         รู้ถึงความหมายของแมวกวักหน้าตาน่ารัก เครื่องหมายแห่งโชคลาภของญี่ปุ่นกันอย่างนี้แล้ว เพื่อน ๆ สนใจจะมีเจ้า มาเนกิ เนโกะ เอาไว้ที่บ้านสักตัวหรือยังค่ะ

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก kapook.com
เรียบเรียงโดย ร้าน It me art

สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com

ดอกไม้แห่งความเจริญรุ่งเรือง ฮวงจุ้ยที่เเหมาะกับบ้านคุณ

    ในทางฮวงจุ้ยบอกว่ารูปภาพที่เหมาะกับห้องพักผ่อนนอนหลับ ภาพที่เหมาะสมจึงควรเป็นภาพที่นุ่มนวล เช่น ภาพดอกไม้ สวนดอกไม้ เพราะแทนความหมายของความรักและความอบอุ่น ในทางฮวงจุ้ยบอกว่ารูปภาพที่เหมาะกับห้องอาหารก็ให้ใช้ภาพวิว หรือภาพต้นไม้ ผลไม้หลากหลายชนิด เพราะช่วงเวลาอาหารถือเป็นช่วงที่ได้รับการพักผ่อน
    สวนดอกไม้

    
  ภาพดอกไม้ ตั้งในบ้าน สำนักงาน จะเป็นสิริมงคลยิ่ง
โบตั๋นเป็นดอกไม้ที่ชาวจีนถือว่าเป็นราชินีของไม้ดอก
เป็นดอกไม้แห่งความเจริญรุ่งเรืองมั่งคั่ง เป็นสัญลักษญ์ของความรักความเสน่หา

 

ภาพต้นไม้

 

ภาพดอกบัวบาน 3ภาพ  งานศิลป์วิจิตรตระการตา 

 

เหมาะสมมีไว้ติดบ้าน ติดห้องพระ ดอกบัวบานสวยๆ เป็นประกายสีทองระเรื่อ

 

ช่วยให้จิตใจสงบเสริมบารมี การมองภาพงามๆ ช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้อ่อนโยน

 

ลดความแข็งกร้าวลงไป

 

ภาพปลาคราฟ 9ตัว ว่ายบนบัวสีทอง เป็นของมงคลที่นิยมกันมากไม่แพ้อย่างอื่น

 

         เพราะปลาคราฟนั้นเป็นปลาที่ชอบว่ายทวนกระแสน้ำ เหมือนกับการที่คนเราไม่ยอมแพ้กับอุปสรรคต่าง ๆ นานา โดยตามความเชื่อของชาวจีนนั้นมีตำนานว่าหากปลาคาร์ฟตัวใดสามารถว่ายทวนน้ำไป จนถึงต้นน้ำได้แล้วจะกลายเป็นมังกร นั่นก็หมายถึงว่าเมื่อไรที่เรามีความตั้งใจ ความพยายามก็จะทำให้เราประสบความสำเร็จได้ในที่สุด ตามศาสตร์ฮวงจุ้ยในระบบวิชาการนั้นมองว่าภาพปลาคาร์ปว่ายทวนน้ำนั้นซ่อนแฝง พลังของ “ธาตุน้ำ”

 

     

 

       สามารถเสริมให้ท่านมีกิจการการค้าและชีวิตที่ราบรื่น ปรับตัวได้คล่องแคล่วตามสถานการณ์ มีสติปัญญาที่ลึกซึ้งเหมือนน้ำ โดยทิศทางที่เสริมพลังได้ดีคือการติดภาพในโซน “ทิศเหนือ” และจะส่งผลดีเป็นพิเศษสำหรับท่านที่เกิดในปี “กุน” และ “ชวด”อย่างไรก็ตามสิ่งของมงคลที่กล่าวมานั้นยังเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของ การจัดฮวงจุ้ยในระบบวิชาการเท่านั้น สิ่งสำคัญที่สุดยังต้องเป็นการจัดฮวงจุ้ยเพื่อดึงเอากระแสพลังดีจากธรรมชาติ รอบ ๆ บ้าน สำนักงาน โรงงานของเรา ให้สามารถส่งเข้ามาเสริมเราจากทิศทางที่ถูกต้องกับดวงชะตาของเรา ประกอบไปกับทิศทางของการนั่ง การนอน การจัดวางตำแหน่งห้องสำคัญ เช่น ห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องครัว เพื่อให้เราสามารถรับเอากระแสพลังดีนี้มาเสริมตัวเราและสมาชิกภายในครอบครัว ยังถือว่าเป็นปัจจัยหลัก

 

ภาพวิว

ห้ามภาพไม่เป็นมงคล

1. งู ไม่ ควรนำมาแต่งบ้าน เพราะงูเป็นสัญลักษณ์ของความอาฆาตซึ่งส่งผลให้หมกมุ่นอยู่กับอารมณ์โกรธ และยังเป็นเครื่องหมายของตัณหาราคะคนในบ้านจะฝักใฝ่แต่เรื่องโลกีย์

2. นาฬิกาทราย จะมีผลทำให้คนในบ้านต้องเหนื่อยกับภารกิจใด ๆ ก็ตามที่ต้องทำอย่างรีบเร่งจนไม่มีเวลาพักผ่อนอย่างสุขสบายเลย

3. หมี เป็นสัตว์น่ารักแต่จะทำให้คนในบ้านพลาดท่าเสียทีผู้อื่นเพราะไม่ทันคน

4. ม้าลาย ถ้านำมาแต่งบ้านคนในบ้านจะมีแต่เรื่องแตกแยกกัน ไม่มีโชคลาภเข้าสู่บ้าน

5. จระเข้ เป็นสัญลักษณ์ของความเจ้าเล่ห์เพทุบาย จะทำให้อับโชค และมีคนคอยคิดมุ่งร้ายต่อคุณและคนในครอบครัว

6. หนู ความหมายไม่เป็นมงคล จะทำให้ถูกหักหลังหรือถูกเอาเปรียบ

7. แมว หมายถึงแมวที่ไร้ชีวิต ถ้านำมาแต่งบ้านจะก่อให้เกิดการหลอกลวงจากคนนอก มาฉกฉวยโอกาสหาผลประโยชน์

           อย่าง ไรก็ดีการใช้สีในควรมีความสมดุลของแต่ละธาตุ เช่น สีเขียวของธาตุไม้ หมายถึงการเติบโตและการพัฒนา สีแดงของธาตุไฟ หมายถึงการขยับปรับเปลี่ยนเคลื่อนไหว กระฉับกระเฉง สีเหลืองของธาตุดิน หมายถึงความฉลาด มีปัญญา และมีเหตุผล สีน้ำตาลของธาตุดิน หมายถึงความมั่นคง สีขาวของธาตุทอง หมายถึงการเริ่มต้นที่สดใส และสีดำของธาตุน้ำ หมายถึงการค้นหาความลับเรื่องแบบนี้ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละบุคคล แต่หากมองอย่างเปิดใจให้กว้าง นี่เป็นโอกาสดีที่คุณ

สนใจสั่งซื้อสินค้าภาพไหน คลิกชมได้ที่  www.itmeart.com

ไอเดียดีๆเทคนิคการแต่งบ้านแบบประหยัดให้เข้ากับเศรษฐกิจในยุคนี้กัน

1.ทาสีผนังใหม่

ลงทุนเลือกซื้อสีทาภายในที่ชอบมาซักกระป๋อง แล้วเลือกวันว่าง ๆ สุดสัปดาห์ รวมพลคนในครอบครัวให้มาช่วยกันทา
สีห้องใหม่ ไม่เพียงแต่จะได้ห้องที่แปลกตาไปจากเดิม แต่ยังได้ร่วมทำกิจกรรมกันในครอบครัว เพียงเท่านี้ผนังห้องเรียบ ๆ
สีขาวก็จะเปลี่ยนไปเป็นรูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ  รับรองได้ว่าคุ้มค่าการลงทุนอย่างแน่นอน

2.ตกแต่งห้องใหม่
ลองดูซิว่า ตอนนี้บ้านของคุณมีอะไรอยู่แล้วบ้าง มุมนั้นวางของรกเกินไปรึป่าว หรือว่ามีรูปสวย ๆ ไปวางเก็บทิ้งไว้
ในห้องเก็บของ ทำไมไม่ลองจัดแต่งบ้านใหม่ โดยเลือกเอาของที่คุณมีอยู่เดิมมาวางในมุมที่เปลี่ยนไป เช่น โต๊ะเขียน
หนังสือตัวเก่าที่ลูกสาวไม่ใช้แล้ว ลองเอามาจัดวางในห้องรับแขก เป็นมุมไว้สำหรับโชว์ของ หรือว่าภาพฝีมือ
ลูกชายสมัยยังเด็กที่ยังเก็บไว้ ลองเอามาประดับตกแต่งผนังบ้านของคุณดูสิ รับรองได้ว่าให้ความรู้สึกย้อน
ความหลังได้ดีทีเดียว
 
3.เลือกแสงอย่างชาญฉลาด
ลองติดตั้งตัวปรับระดับแสงให้กับสวิชไฟในห้องของคุณ รับรองได้ว่าจะช่วยเปลี่ยนความรู้สึก รวมถึงสามารถปรับ
แสงให้เหมาะกับการใช้งานในแต่ละเวลาได้ด้วย  แต่ถ้าหากเป็นเรื่องยากเกินไปนัก  ลองเลือกโคมไฟเก๋ ๆ
มาตั้งสองข้างขนาบกับโซฟาตัวโปรดของคุณในห้องนั่งเล่น  หรือจะเปลี่ยนที่ครอบอันใหม่ให้เรียบหรู ดูมีสไตล์
กว่าเดิมก็ไม่ว่ากัน

4.หมอนอิงช่วยได้
ถ้าหากว่าการลงทุนซื้อโซฟาตัวใหม่ซักตัว ทำให้คุณต้องคิดหนักเรื่องราคาแล้วหล่ะก็ ขอแนะนำว่าเพียงเลือกหมอน
อิงลายสวยเก๋ถูกใจหลาย ๆ ใบมาวางประดับลงบนโซฟาตัวเก่า เพียงเท่านี้คุณก็จะได้ห้องใหม่ หมอนใหม่ และโซฟา
รูปแบบใหม่ ที่แตกต่างไปจากเดิมแล้วหล่ะค่ะ

5.นอนอย่างมีสไตล์
ห้องนอนของคุณก็ต้องการ การเปลี่ยนแปลงด้วยรึเปล่า? ลองเปลี่ยนหัวเตียงใหม่ดูสิ หรือจะเลือกภาพวาดอันใหญ่
มาประดับผนังก็ไม่เลวนะ นอกจากจะช่วยเพิ่มอะไรให้กับผนังห้องของคุณแล้ว  การเลือกตกแต่งที่ดูหนักแน่นยัง
ช่วยทำให้ห้องของคุณดูมีแนวทางที่ชัดเจนและ มีเสน่ห์  หรือว่าอยากจะลองเลือกรูปแบบผสมผสานก็ไม่ว่ากัน
ตัวเตียงใหม่กับโต๊ะตัวเก่า หรือจะหัวเตียงเก่ากับโต๊ะตัวใหม่คงแล้วแต่ใครจะชอบแบบไหน คงต้องเลือกกันเอาเอง
6.ลองใช้กระจกซิจ๊ะ
หากว่าภาพวาดหรืองานศิลปะที่คุณอยากจะได้มาประดับห้องของคุณมีราคาสูง เกินงบ ไปหน่อย ทำไมไม่ลอง
หันมาเลือกใช้กระจกประดับห้องดูหล่ะ เพียงนำกระจกไปเข้ากรอบที่คุณชอบ แล้วก็มาวางเรียงประดับห้อง
อยากได้มากได้น้อยก็สามารถตกแต่งเลือกได้ตามใจตัวเอง  นอกจากจะให้ลูกเล่น และผลลัพธ์ที่แปลกตาแล้ว
ยังช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าได้อย่างดีอีกด้วย
7.พิจารณาเรื่องขนาด
เรื่องของขนาดนั้นมีผลมากทีเดียวกับความรู้สึกของคน  ไม่ว่าห้องของคุณมีขนาดเล็กแค่ไหน แต่ถ้ามีของประดับ
ชิ้นใหญ่ซักชิ้น รับรองได้ว่าช่วยทำให้ห้องคุณดูแกรนด์ขึ้นได้มากทีเดียว  ลองเลือกภาพพิมพ์ชิ้นใหญ่ ๆ
มาวางประดับผนัง หรือจะเลือกงานประติมากรรมที่ชื่นชอบซักชิ้นก็ไม่ว่ากัน
8.ของเก่าทำใหม่
แม้จะเป็นเก้าอี้ตัวเก่าที่เริ่มจะออกสีเหลือง ๆ แต่โครงไม้ที่สวยงามนั้นคงทำให้ทิ้งมันไม่ลง
ทำไมไม่ลองนำเอาเฟอร์นิเจอร์เก่าที่มีไปปรับเปลี่ยนเบาะใหม่  แล้วก็ทาสีซะใหม่ เพียงเท่านี้เก้าอี้ตัวเก่งของ
คุณก็จะดูใหม่และเก๋เหมาะกับห้องของคุณ
9.จัดการกับหน้าต่างของคุณ
ลองเลือกผ้าม่านที่เหมาะกับหน้าต่างและห้องของคุณ  บางคนอาจคิดว่าเป็นเรื่องไม่สำคัญ แต่ว่าผ้าม่านเป็น
ตัวกรองแสงที่จะเข้ามาภายในห้อง รวมไปถึงรูปแบบและลวดลายของผ้าม่านยังสามารถแสดงรสนิยมและ
บุคลิกของเจ้าของ ได้อีกด้วย  ทำไมไม่ลองเปลี่ยนผ้าม่านห้องนั่งเล่นหรือส่วนทานอาหารของคุณดูหล่ะ
เพียงเท่านี้ห้องคุณก็จะเปลี่ยนไปอย่างไม่เคยเห็นมาก่อน

10.สร้างสรรค์ผลงานให้บ้านด้วยตัวเอง
หลังจากเลือกสรรหางานศิลปะสวย ๆ เพื่อมาประดับห้องอยู่นาน  อาจไม่พบที่ถูกใจหรือว่ามีราคาแพงเกินไป
ทำไมไม่ลองมาสร้างสรรค์ผลงานเองดูหล่ะ  อาจจะทำแบบง่าย ๆ ซึ่งเหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบวาดรูป
โดยหารูปในนิตยสารที่ชอบ มาแปะซ้อนทับกัน ตกแต่งสร้างภาพขึ้นเองใหม่ แล้วใส่กรอบ  หรือใครคนไหนมีฝีมือ
ก็อวดโฉมได้เต็มที่ เพียงเท่านี้  เทคนิคง่าย ๆ เราก็สามารถตกแต่งบ้านสวยราคาประหยัดกันได้แล้วหล่ะค่ะ

เรียบเรียงข้อมูลโดย ร้าน It me art
(สนใจสั่งซื้อสั่งค้า www.itmeart.com)