วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บูชาแมวกวักแล้วรวยจริงหรือ?

บูชาแมวแล้วรวยจริงหรือ

         สิ่งศักดิ์สิทธิ์บูชาแล้วรวย พูดไปแล้วคงไม่มีใครเชื่อกันง่ายๆ ถ้าไม่ได้ถูกหวยรางวัลที่ 1 ให้เห็นกันจะๆ แต่สำหรับ "คุณเอ้บุญณดา อ่อนละมัย" เจ้าของธุรกิจขายสินค้าที่ระลึกในห้างสรรพสินค้าและธุรกิจประกันภัย เธอยืนยันได้ว่า "ตุ๊กตาแมวกวัก" ที่เธอบูชาด้วยใจรัก ทำให้ธุรกิจของเธอรุ่งเรืองขึ้นอย่างคาดไม่ถึง

        "เป็นคนชอบแมวกวักของญี่ปุ่นอยู่แล้ว เพราะดูมันน่ารักดี และซื้อสะสมมาเรื่อยๆ ตอนนั้นทำธุรกิจประกันภัยรถยนต์เพียงอย่างเดียว แรกๆ ก็พออยู่ได้ แต่ก็ยังไม่เป็นตามที่ต้องการ เพราะเจอผลกระทบจากปัญหาเศรษฐกิจไม่ดี แต่หลังจากบูชาไปได้สักพัก ก็รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ มีลูกค้าเข้ามาติดต่อซื้อธุรกิจประกันภัยเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว สวนทางกับกระแสเศรษฐกิจเลย จากที่เคยมีลูกค้าแค่ 20 กว่าราย เบี้ยประกันได้แค่เงินหลักแสน แต่ทุกวันนี้มีลูกค้าหลายร้อยราย เบี้ยประกันก็เพิ่มขึ้นเป็นหลักล้าน แตกต่างจากเมื่อก่อนอย่างเห็นได้ชัด


         ไม่ เชื่อก็ต้องเชื่อ หลังจากนั้นก็ได้เปิดธุรกิจขายสินค้าที่ระลึกในห้างสรรพสินค้าอีก ตอนนี้ก็ขยายไปได้หลายสาขาแล้ว ทุกๆ วันเราจะบูชาแมวกวักด้วยการเอาน้ำมาถวายให้เขากิน แล้วอาทิตย์หนึ่งก็เอามาเช็ดถูพูดกับเขาบ้างว่า ขอให้เรียกลูกค้าเข้าร้านเยอะๆ ยิ่งวันไหนได้เช็ดทำความสะอาดเขา เราจะรู้สึกว่าขายดีเป็นพิเศษ ถึงจะมีคู่แข่งอยู่หลายเจ้าในตอนนี้ แต่ก็เชื่อว่าด้วยความศรัทธาในสิ่งที่เรานับถือและมุ่งมั่นทำมาหากิน สิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะบันดาลให้เราสมปรารถนาได้ ใครจะเชื่อหรือไม่ก็ตาม แต่ความเปลี่ยนแปลงต่างๆ ก็เกิดขึ้นในชีวิตเราแล้ว เพื่อนๆล่ะค่ะมีแมวกวักกันรึยัง...

ร่ำรวย เฮงๆ แมวกวักญี่ปุ่น

         มี ลักษณะความเชื่อคล้ายกับนางกวักของไทย ชาวญี่ปุ่นจะเรียกแมวกวักว่า "มาเนะคิเนะโกะ" แปลว่า แมวที่ทำหน้าที่เชื้อเชิญเงินทอง โชคลาภ บูชาเพื่อความร่ำรวยและสมปรารถนา

         เคล็ดวิธีบูชา: ให้ตั้งไว้ในจุดที่ดีที่สุดของบ้าน เช่น ห้องรับแขกหรือบริเวณโต๊ะทำงาน และหมั่นเช็ดทำความสะอาดตลอดเวลา ดูแลอย่างใกล้ชิด แมวกวักก็จะนำความสุขและโชคลาภมาสู่คุณและครอบครัว


         Tip: การเลือกซื้อแมวกวัก ถ้าเลือกแมวกวักมือซ้าย หมายถึงให้เรียกลูกค้าเยอะๆ และยิ่งกวักสูงมากแค่ไหนก็เรียกคนได้มากเท่านั้น แต่ถ้ากวักมือขวา เป็นการเรียกเงิน เรียกทอง และความโชคดี

                   ในยุคปัญหาเศรษฐกิจแบบนี้ การมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไว้บูชาก็ถือว่าเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เป็นกำลังใจให้ต่อสู้กันไป แม้วันนี้จะยังไม่รวย แต่พรุ่งนี้คุณอาจโชคดีก็ได้"

ขอบคุณข้อมูลจาก กระปุกดอทคอม
เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
สนใจแมวกวักคลิกชมเพิ่มเติมได้ที่  www.itmeart.com

วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ตกแต่งห้องให้ออกมาสวยดังใจแน่นอนเพียงแต่เราต้องรู้จักวางแผน!!

                การตกแต่งคอนโดฯ ขนาดของพื้นที่นับเป็นปัจจัยหลักที่สำคัญอย่างหนึ่งที่ควรคำนึงในการออกแบบ ตกแต่งห้อง แต่ไม่ว่าเราจะมีพื้นที่ห้องจำกัดขนาด ไหนก็ไม่เป็นอุปสรรคต่อการตกแต่งให้ออกมาสวยดังใจแน่นอนเพียงแต่เราต้อง รู้จักวางแผนการใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วของห้องให้เกิดประโยชน์สูงสุด
แบบห้องนั่งเล่นแต่งห้องนอน
เรามาเริ่มต้นกันที่ "สี" ของห้องกันก่อน แนะนำว่าน่าจะลองใช้โทนสีอ่อน เช่น สีขาว สีเบจ หรือสีโทนพาสเทล เพื่อให้ห้องแลดูโปร่ง สว่าง และสบายตา ถัดมาเป็นเรื่องของ "การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์" แน่ นอนว่าคุณควรมองหาเฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์หรือขนาดที่กะทัดรัดเหมาะสมกับ ขนาดห้อง และให้ประโยชน์ใช้สอยมากกว่า 1 ฟังก์ชั่น เช่น โซฟาที่สามารถปรับเป็นที่นอนได้ (โซฟาเบด), เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของที่หัวเตียงและใต้เตียงหรือเตียงสองชั้น โดยชั้นบนใช้เป็นที่นอน ส่วนชั้นล่างเป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะทำงาน, ไซด์บอร์ดแบบแขวนผนัง เพื่อเพิ่มพื้นที่ใช้งานในแนวดิ่ง,  ตู้อเนกประสงค์ที่สามารถปรับฟังก์ชั่นใช้งานให้เป็นได้ทั้งตู้เก็บของหรือ เก็บรองเท้า เป็นต้น
แบบห้องทำงานแต่งห้องนั่งเล่น
           ที่ สำคัญต้องไม่ลืมพิจารณาเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่มีความหนาหรือลึกในขนาดที่พอดี ประมาณ 30 ซม. เพื่อความลงตัวในการจัดวางและการใช้งานส่วนต่างๆของห้อง อีกทั้งยังทำให้ ห้องดูไม่ทึบตันไปด้วยเฟอร์นิเจอร์ ส่วนเรื่องของ “สี” เฟอร์นิเจอร์ก็อาจเลือกเป็นคอลเลคชั่นสีขาวซึ่งเป็นสีพื้นฐานที่สามารถลงตัว กับห้องได้หลายสไตล์ และยังทำให้ห้องดูโปร่งกว้างสบายตาอีกด้วย
แต่งคอนโดมิเนียม
ซึ่ง ปัจจุบันตลาดเฟอร์นิเจอร์บ้านเราก็มีหลากหลายดีไซน์และหลายระดับราคาให้คุณ ผู้อ่านได้เลือกช้อปและทำให้คุณตกแต่งคอนโดฯ ได้สวยครบทั้งห้องในราคาเพียง 20,000 ต้นๆ เท่านั้น
แบบตู้บิลท์อิน
           หรือหากคุณไม่เกี่ยงเรื่องราคา “เฟอร์นิเจอร์บิลท์อิน” น่าจะเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสม เพราะจะทำให้คุณได้ใช้ประโยชน์พื้นที่ตั้งแต่พื้นจนถึงเพดาน เช่น ตู้เสื้อผ้า ที่คุณสามารถออกแบบขนาดและจำนวนช่องสำหรับการเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้เอง ส่วนใครเป็นหนอนหนังสือหรือนักสะสมของกระจุกกระจิก และยังพอมีพื้นที่ของผนังห้องว่างอยู่ ละก็ อยากให้ลองทำชั้นโชว์แบบบิลท์อินดูบ้าง แล้วคุณจะพบว่า ห้องของคุณยังมีพื้นที่ให้วางหนังสือและโชว์ของสะสมได้อีกเหลือเฟือทีเดียว 
แบบชั้นวางรองเท้า
         ดัง นั้นหากเรารู้จักวางแผนการใช้สอยพื้นที่ และฉลาดเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ฟังก์ชั่นครบในราคาที่คุ้มค่า ก็จะทำให้เราได้ห้องสวยถูกใจ สนุกกับชีวิตที่มีลูกเล่นและที่สำคัญได้ใช้สอยพื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด อีกด้วย
แบบชั้นวางทีวี

ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก  forfur.com

วันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แต่งห้องนอนสวยสไตล์วินเทจ คำแนะนำดีๆที่ควรอ่าน

แต่งห้องนอนสวยสไตล์วินเทจ

ห้องนอนวินเทจ เคล็ดลับแต่งห้องนอนสวยสไตล์วินเทจ


             การตกแต่งห้องสไตล์วินเทจนั้นไม่ใช่เรื่องยาก แถมยังใช้งบประมาณไม่มากอีกด้วย แค่ลองนำเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเก่า ๆ ที่มีอยู่กลับมาใช้ใหม่ก็ใช้ได้แล้ว เพียงลองจัดห้องดูตามนี้ คุณก็จะได้ห้องนอนสไตล์วินเทจสุดน่ารักไว้อวดใครต่อใครสมใจ สาว ๆ คนไหนสนใจอยากมีห้องนอนสวยหวานก็ลองไปทำกันดู
แต่งบ้าน แต่งห้องนอน



            นอกจากแฟชั่นวินเทจจะเป็นเทรนด์ฮอตไม่เลิกสำหรับการแต่งตัวของสาว ๆ หลายคนแล้ว ยังสามารถเอามาใช้เป็นธีมแต่งห้องนอนแนววินเทจให้ได้ลุคเจ้าหญิง ดูคลาสสิคหวานแหววได้อีกด้วย เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องดูอบอุ่นแล้ว ยังมีราคาถูก ไม่ต้องลงทุนมากอีกด้วย เฟอร์นิเจอร์บางชิ้นอาจหยิบยืมของเก่า ๆ จากคุณปู่คุณย่ามาประยุกต์ใช้ใหม่ได้ด้วยซ้ำ

แต่งบ้าน แต่งห้องนอน
ภาพจาก Elizabeth Anne Designs

1. หาของเก่ามาแต่งห้อง

            จะ ไปขอยืมจากคุณแม่คุณยาย ซื้อร้านมือสอง หรือซื้อใหม่จากร้านเลยก็ได้ ขอให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นนั้นดูขลังเหมือนหลุดมาจากยุค 1980 หรือยุค 1990 เป็นใช้ได้ แค่เพียงมีของเก่า ๆ อย่างกระจก ตู้เสื้อผ้า หรือโคมไฟแบบคลาสสิค ก็ช่วยให้ห้องดูมีเสน่ห์สไตล์วินเทจมากขึ้นแล้ว ลองเช็คให้ดีว่าคุณมีของเหลานี้อยู่ที่บ้านแล้วหรือยัง บางทีแค่เอาของเก่า ๆ มาทำความสะอาดเสียใหม่ แค่นี้ก็ได้เฟอร์นิเจอร์สุดคลาสสิคมาประดับห้องโดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแล้ว

แต่งบ้าน แต่งห้องนอน
ภาพจาก Colorful Kids Rooms

2. แต่งด้วยลายดอกหรือลายลูกไม้

            เรียก ได้ว่าแนววินเทจกับลายดอกจะขาดกันไม่ได้เลยทีเดียว เพราะมันจะช่วยทำให้ห้องดูอ่อนหวาน และได้บรรยากาศแนวยุโรปโบราณมากขึ้น สามารถเลือกใช้ลายดอกได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปูเตียง หรือโคมไฟน่ารัก ๆ สักอัน แต่ถ้าหากกลัวว่าห้องนอนของคุณจะดูหวานเกินไป ก็ไม่จำเป็นต้องเลือกลายดอกที่สีหวานมากนัก ยังมีลายดอกสีสด ๆ ออกแนวคันทรี่หน่อย ๆ อย่างสีเหลืองสด ก็น่าซื้อหามาลองใช้กันดู นอกจากนี้ควรติดผ้าม่านลายลูกไม้เพื่อให้ห้องดูโล่งโปร่งสบาย และดูอ่อนหวานมากขึ้น

แต่งบ้าน แต่งห้องนอน
ภาพจาก Frenchtowner

3. อย่าปล่อยให้ผนังดูเรียบจนเกินไป

            วอ ลเปเปอร์ลายดอกจะทำให้ห้องดูมีอิมเมจแบบเจ้าหญิงได้ไม่เลว แต่ถ้าเลือกใช้วอลเปเปอร์แบบนี้แล้ว ไม่ควรแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ลายดอกเยอะนัก จะทำให้ห้องดูรก และลายตาจนเกินไป นอกจากนี้การทาสีห้องแทนการติดวอลเปเปอร์ก็สามารถช่วยให้ห้องดูดีได้ไม่แพ้ กัน เพียงแต่ต้องรู้จักใส่ลูกเล่นบ้างเท่านั้น ควรเลือกสีหวาน ๆ อ่อน ๆ อย่างสีฟ้าหรือสีชมพู แต่ที่สำคัญควรวาดลายที่ผนัง หรือหาสติกเกอร์ติดผนังมาประดับ จะทำให้ห้องสดใส มีชีวิตชีวาขึ้นอีกเยอะ

แต่งบ้าน แต่งห้องนอน
ภาพจาก Decor Report

4. เลี่ยงเฟอร์นิเจอร์ตรง ๆ ทื่อ ๆ

            เลือก เฟอร์นิเจอร์ดัดแต่งทรงกลมมนทั้งหลายแทนแบบตรง ๆ เรียบ ๆ ควรเลือกเตียงที่มีหัวเตียงเป็นเหล็กดัด หรือจะเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ไม้ที่มีแนวโค้งงอ ตกแต่งลวดลายหวาน ๆ ดูก็ได้ นอกจากนี้โซฟาหรือเฟอร์นิเจอร์อื่น ๆ ที่อยู่ในห้องก็ควรจะเป็นทรงมนเช่นกัน จะช่วยให้ห้องดูสวยหวานแบบยุคเก่า และไม่ดูเป็นทางการจนเกินไป

แต่งบ้าน แต่งห้องนอน
ภาพจาก 2bp.blogspot.com

5. ตกแต่งเพิ่มด้วยของกระจุกกระจิก

            อย่า สนใจแต่การแต่งเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ ๆ จนละเลยการตกแต่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ควรหาของชิ้นเล็กชิ้นน้อยมาประดับเพิ่มเพื่อให้ห้องไม่ดูโล่งจนเกินไป เช่น วางกรอบรูปดีไซน์คลาสสิคไว้ข้างหัวเตียง หรือวางหมอนใบเล็ก ๆ ลายดอกหลาย ๆ ใบไว้บนเตียง จะช่วยให้ห้องดูมีดีเทลมากขึ้น ดูอบอุ่นน่าพักผ่อน
 
 
ขอบคุณขอมูลจาก กระปุกดอทคอม
เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
สนใจ คลิกชมของแต่งห้องนอนได้ที่  www.itmeart.com
 

วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เปลี่ยนบรรยากาศของห้องต่าง ๆ รวมทั้งบ้านของเราให้ดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้นได้ง่าย ๆ แล้ว

เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี

 

เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี


           ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการเลือกทาสีผนังบ้านให้เหมาะสมจะสามารถเปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้แตกต่างไปจากเดิมได้ง่าย ๆ เพราะเมื่อก่อนหลายคนอาจจะคิดว่าต้องลงทุนซื้อเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหม่ หรือต้องออกแรงปรับเปลี่ยนมุมต่าง ๆ ภายในบ้าน ถึงจะทำให้บ้านมีบรรยากาศน่าสนใจมากกว่าเดิม ซึ่งถ้าอยากให้บ้านมีบรรยากาศอบอุ่น อยู่สบาย ๆ ก็ไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายถึงขนาดนั้น เพราะเพียงแค่เปลี่ยนสีผนังก็สามารถเปลี่ยนลุคให้บ้านดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้น อีกเยอะแล้วล่ะ ว่าแต่สีไหนบ้างที่ช่วยได้ ลองไปดูกันค่ะ


 เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก Interior Stage Design
1. อบอุ่นด้วยสีเขียวขี้ม้า

           สีแนวเอิร์ธโทนเป็นสีที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น และให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติมาก ๆ อย่างห้องนอนที่ตกแต่งผนังด้วยสีเขียวขี้ม้า หรือสีเขียวตุ่น ๆ แบบต้นมอส ก็จะทำให้ห้องนอนดูเย็นตา อยู่แล้วก็รู้สึกสบาย ส่งเสริมบรรยากาศให้เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น ยิ่งถ้าได้เตียงไม้ หรือเฟอร์นิเจอร์ไม้สีน้ำตาลมาอยู่ในห้องด้วย ก็จะยิ่งเพิ่มบรรยากาศเป็นธรรมชาติให้น่านอนสุด ๆ


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
 ภาพจาก Enclosures Architects
  2. สว่างใสกับสีเหลือง

           สีเหลืองเหมือนเป็นสีตัวแทนของแสงอาทิตย์ เมื่อนำมาตกแต่งบ้านแล้วก็จะเพิ่มความอบอุ่นให้บ้านได้ไม่น้อย โดยเฉพาะกับพื้นที่ที่ต้องการสร้างสีสันและความสว่างให้บ้าน เช่น ชั้นวางของ หรือห้องอาหาร ซึ่งสีเหลืองโทนกลาง ๆ แบบนี้จะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของเราด้วย


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก Optimise Design
3. สบายตาด้วยสีขาว-ครีม

           หากคุณต้องการตกแต่งห้องนอนให้ดูอบอุ่น นักออกแบบภายในอาจจะแนะนำให้คุณตกแต่งผนังเป็นสีขาวครีมทั้งห้อง โดยแมทช์สีไข่ไก่ หรือสีน้ำตาลโทนอ่อนเข้าไปด้วย เพราะสีโทนเบา ๆ กลาง ๆ แบบนี้จะช่วยให้ห้องมีบรรยากาศอบอุ่น สบาย ๆ เหมาะแก่การพักผ่อนมากขึ้น โดยคุณอาจจะเลือกใช้เตียงเหล็กสีขาว ผ้าปูที่นอนสีขาว ปลอกหมอนสีครีม และเพิ่มโคมไฟหัวเตียงสีน้ำตาลอ่อน ๆ มาประดับด้วยก็ได้


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก Rikki Snyder
4. น่ารักขี้เล่นกับสีม่วง

           สีม่วงเป็นสีที่สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องให้ดูอบอุ่นน่ารักได้ไม่แพ้สี อื่น ๆ ถ้าไม่เชื่อจะลองทาสีเพดานห้องเป็นสีม่วงเฉดอ่อน ๆ แนวสีดอกลาเวนเดอร์เบา ๆ ก่อนก็ได้ ส่วนผนังห้องทั้งหมดก็ทาสีขาว หรือจะเล่นสีครีมก็แล้วแต่ เพียงเท่านี้ก็จะรู้สึกว่าห้องมีบรรยากาศที่เปลี่ยนไป ดูอบอุ่นน่ารักขึ้นมากเลยทีเดียว


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก Palmerston
5. สีดำสุดคลาสสิค

           หลายคนอาจจะสนใจอยากเปลี่ยนสีห้องเป็นสีอื่นดูบ้าง แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็ยังไม่กล้าจะทาผนังเป็นสีอื่นนอกจากสีขาว หรือสีครีม เพราะกลัวว่าจะผิดหลัก แต่ถึงอย่างไรก็อย่าเพิ่งหมดหวัง เพราะคุณสามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องให้ดูอบอุ่นขึ้นมาได้ โดยถ้าห้องของคุณเป็นสีขาวอยู่แล้ว คุณก็แค่เปลี่ยนสีประตูให้ดูโดดเด่นขึ้นมาอีกนิด ด้วยการทาสีดำเข้ม ๆ ลงไป เท่านี้ก็จะดูอบอุ่นแบบคลาสสิกขึ้นแล้ว


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก DYS Home Staging
6. เย็นใจด้วยสีเทา

           การเลือกสีเข้มตกแต่งห้องอาจจะไม่ใช่แนวของใครหลายคน ถ้าอย่างนั้นเราลองปรับลดโทนสีลงมาอีกสักระดับด้วยการเลือกใช้สีเทาทาผนัง ห้องดูดีกว่า แถมสีเทายังช่วยเปลี่ยนบรรยากาศห้องให้ดูเย็นสบาย พาให้คนอยู่อารมณ์เย็นขึ้นอีกด้วยนะ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ควรตกแต่งส่วนอื่นเพิ่มเติมด้วยสีที่ไปด้วยกันได้ดี อย่างสีครีมไข่ไก่ อาจจะใช้สีครีมไข่ไก่ทาขอบหน้าต่าง หรือเพดาน และเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสไตล์วินเทจเล็ก ๆ เช่น โซฟาโบราณ หรือโคมไฟสีครีมสุดคลาสสิกก็ได้


เปลี่ยนบรรยากาศบ้านให้อบอุ่น ด้วย 7 โทนสี
ภาพจาก Sroka Design
7. เก๋ ๆ ไปกับสีแดงอิฐ

           อาจจะเป็นสีที่ต้องใช้ความระมัดระวังในการเลือกตกแต่งบ้านสักหน่อย แต่ถ้าได้ลองนำมาทาสีผนังดูแล้ว จะรู้สึกว่าคุ้มค่ากับการเลือกสรรค์มาก ๆ เลยล่ะ เพราะมันทั้งดูสดใสและมีสไตล์ไปด้วยในตัว เรียกได้ว่าแค่ทาสีผนังก็สามารถสร้างแรงบันดาลใจและอะไรอีกมากมายให้กับบ้าน ได้เลยทีเดียว แต่ก็อย่างที่บอกว่าต้องเลือกเฉดสีให้ดี พยายามเลี่ยงสีแดงที่ออกส้ม หรือออกสีแดงแจ๋มากเกินไปด้วย แต่ถ้าจะให้ดีควรจะเลือกทาสีแดงกับห้องอาหาร เพราะสีแดงอิฐจะช่วยกระตุ้นความอยากอาหารของเราได้ด้วยค่ะ


           แค่เพียงเลือกทาสีผนังบ้านให้เหมาะสม เท่านี้ก็สามารถเปลี่ยนบรรยากาศของห้องต่าง ๆ รวมทั้งบ้านของเราให้ดูอบอุ่นน่าอยู่ขึ้นได้ง่าย ๆ แล้ว ดังนั้นใครอยากลองเปลี่ยนบ้านให้อบอุ่น ลองเริ่มต้นจากสีเหล่านี้ดูนะคะ

วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สไตล์การแต่งบ้านที่คุณควรรู้ เกร็ดความรู้ดีๆ | It me art


การแต่งบ้านมันเป็นตามสตล์ของผู้อยู่
แต่สไตล์ไหนล่ะที่จะบ่งบอกความเป็นตัวคุณที่สุด
null

Style Of Interior Design
         หาก คุณคิดถึงการตกแต่งภายในแล้ว สิ่งที่มองข้ามไปไม่ได้สิ่งหนึ่งก็คือสไตล์การตกแต่งนั่นเอง เราได้ยกตัวอย่างสไตล์การตกแต่งมาให้คุณดูเป็นแนวทางถึง 6 สไตล์ด้วยกันดังนี้

       
           Tropical Styleคำ ว่า Tropicalหมายถึงเขตร้อนชื้น ดังนั้นการตกแต่งสไตล์นี้จึงเน้นการตกแต่งด้วยวัสดุธรรมชาติ 100%อย่างไม้ไผ่ ไม้สักย้อมสีโอ๊ค ตลอดจนเฟอร์นิเจอร์แนวหวายสาน ซึ่งเป็นวัสดุที่หาพบทั่วไปในเขตร้อนชื้น หลักของงานตกแต่งสไตล์ทรอปิคอลคือการนำธรรมชาติเข้ามาไว้ภายใน โทนสีที่พบในงานจึงเป็นโทนสีที่สะท้อนองค์ประกอบต่างๆตามธรรมชาติตั้งแต่สี เขียวสดของใบไม้ สีแสดของพันธุ์ไม้ต่างๆ ตลอดจนสีน้ำตาลของพื้นดินเป็นต้น นอกจากนี้ยังมีของตกแต่งอีกมากที่จุดประกายและสร้างเสน่ห์ให้กับแนวธรรมชาติ อย่างทรอปิคอลสไตล์ ตั้งแต่วัสดุผ้าไหม งานจิตรกรรม ก็เป็นตัวขับความเป็นธรรมชาติ มีชีวิตชีวาให้กับสไตล์นี้ได้ดีทีเดียว
null


        Modern Style เป็น สไตล์การตกแต่งที่เน้นความเรียบง่าย และนำรูปทรงเลขาคณิตสี่เหลี่ยม สามเหลี่ยม ทรงกลม มาใช้ในงานโทนสีมักจะประกอบไปด้วยสีเพียง 2-3 สีมากกว่าการใช้สีหลากหลาย หรือลวดลาย เฟอร์นิเจอร์ส่วนใหญ่จะอำนวยต่อพื้นที่เปิดโล่ง เน้นความ flow ต่อเนื่องทางสายตา และมีการนำวัสดุที่ไม่เป็นธรรมชาติมาผสมเช่นกระจก stainless acrylic เป็นต้น

               null

null
        Contemporary คำ ว่า contemporary แปลได้ว่าร่วมสมัย ซึ่งเกิดจากการนำสไตล์การตกแต่งในอดีตมาพัฒนาต่อยอดให้เข้ากับยุคสมัยมาก ขึ้นแต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ที่สำคัญในอดีตของสไตล์นั้นๆอยู่ เราจึงสามารถพบเห็นสไตล์นี้ได้ทั้งแบบตะวันออกและตะวันตก อย่างการนำบ้านทรงไทยและเครื่องเรือนไทยโบราณไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยสุโขทัย อยุธยา หรือรัตนโกสินทร์ มาลดทอนรายละเอียดให้ดูทันสมัยขึ้น ก็จะถือเป็นรูปแบบการตกแต่งแบบ Thai Contemporary หากเราจับศิลปะสมัย Victoria มาออกแบบให้ทันสมัยขึ้นสไตล์นั้นก็จะถือว่าเป็น Western Contemporaryไป

    null

         Classic Style เคย เป็นสไตล์การตกแต่งที่นิยมกันในราชวัง และหมู่คนชั้นสูงในตะวันตกซึ่งเน้นความหรูหรา โอ่อ่า และเต็มไปด้วยรสนิยม ภาพเขียนจิตกร โคมไฟระย้า ตลอดจนงานผ้าม่านที่อ่อนช้อยจึงเป็นอะไรที่ขาดไม่ได้ในสไตล์นี้ ต่อมาภายหลังการตกแต่งแบบคลาสลิกได้แพร่กระจายมาสู่กลุ่มคนชั้นกลางและใช้ กันอย่างแพร่หลาย จึงทำให้ความหรูหราและรายละเอียดลดทอนลงไป อย่างการแกะสลักเป็นลวดลายนางฟ้าหรือเถาใบไม้ตามหน้าบานตู้เฟอร์นิเจอร์ก็ลด รายละเอียดลงเหลือเพียงการแต่งบานลูกฝัก

 null
        

          Country Style คัน ทรี่สไตล์นั้นถึอเป็นสไตล์ของชาวบ้านในแถบตะวันตก ซึ่งได้รับความนิยมและต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน เป็นสไตล์ที่เน้นความอบอุ่นของครอบครัว มีลักษณะสำคัญด้วยการตกแต่งผนังด้วยสีสัน และเล่นลวดลายดอกและหมากรุกบนโซฟาและ ผ้าม่าน

 null
    

          Chic Style เป็น การตกแต่งที่เน้นความแปลกใหม่ เก๋ไก๋ ใช้สีหลากหลายและสดใส เป็นสไตล์ที่ไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว อาจจะผสม เก้าอี้ลายดอกของคุณยาย เข้ากับตู้สีแดงที่แสนจะทันสมัย คือเน้นความแปลกและเก๋เป็นหลักนั่นเอง

 

 null
           
         Monotone Style เป็น การตกแต่งบ้านด้วยการยึดหลักสีเดียว แต่จะเล่นระดับความเข้มของสีในระดับที่แตกต่างกันไป เช่นในห้องสีเบจ เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีครีม สีเหลืองทอง ตลอดจนของตกแต่งอย่างพรมสีน้ำตาลเป็นต้น เพื่อรักษาอารมณ์ที่ต่อเนื่อง เน้นความกลมกลืนกันของบรรยากาศทั้งหมด


 null
          อย่าง ไรก็ตามเนื่องจากความหลากหลายทางเชื้อชาติ และความผสมผสานทางวัฒนธรรม จึงทำให้สไตล์การตกแต่ง ในปัจจุบันมีความหลากหลายมากขึ้น บ่อยครั้งที่เราพบเห็นการตกแต่งที่ผสมผสานกันมากกว่าหนึ่งสไตล์ เช่น Tropical Chic, Modern Classic ฯลฯ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความชอบผู้อยู่อาศัย และความคิดสร้างสรรค์ของมัณฑนากรที่จะเพิ่มเติม ผสมผสาสไตล์การตกแต่งที่หลากหลายและรักษาความกลมกลืนขององค์ประกอบโดยรวมเอา ไว้ด้วยกัน

เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
คลิกชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่  www.itmeart.com



วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

อยากชวนคุณมาดูวิธีเลือกใช้วอลเปเปอร์ ว่าจะใช้อย่างไรให้เหมาะกับห้องต่าง ๆ ในบ้าน

อยากชวนคุณมาดูวิธีเลือกใช้วอลเปเปอร์
ว่าจะใช้อย่างไรให้เหมาะกับห้องต่าง ๆ ในบ้าน
   null
  
             ทำความรู้จักกับชนิดของวอลเปเปอร์
1. วอลเปเปอร์ผ้า เนื่องจากทำจากผ้าจึงให้ความรู้สึกและผิวสัมผัสที่อ่อนนุ่ม อาจเป็นผ้าไหม ผ้าลินิน หรืออื่นๆ เคลือบอยู่บนชั้นกระดาษ วอลเปเปอร์ผ้าใช้ได้ดีกับผนังห้องที่มีผิวไม่เรียบ แต่จะมีราคาแพงและทำความสะอาดยาก


2. วอลเปเปอร์แผ่นฟอยล์ เนื่องจากฟอยล์มีลักษณะเป็นมันเงา วอลเปเปอร์ชนิดนี้จึงให้อารมณ์หรูหรา เหมาะกับพื้นที่เล็ก ๆ เพราะมีราคาแพง ไม่ทนทาน และติดยาก

3. วอลเปเปอร์กระดาษ ติดง่าย สะดวก มีลวดลายให้เลือกเยอะ แต่ควรเลือกแบบเคลือบไวนิล เพื่อให้ทำความสะอาดง่าย ไม่ดูดซับน้ำ

4. วอลเปเปอร์ไวนิล นับเป็นวอลเปเปอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เพราะไม่มีปัญหาเรื่องความเปียกชื้น คราบน้ำมัน และคราบฝุ่นเกาะ (ปล.ทางร้านเราขายวอลเปเปอร์ไวนิลจ้าาา)

null
nullnull
null
null
null
5. วอลเปเปอร์เส้นใยสังเคราะห์ มองจากภายนอกคล้ายผ้า สามารถใช้ได้กับผนังและเพดาน มีส่วนช่
วยป้องกัน ความร้อน สามารถใช้ได้กับทุกห้อง ยกเว้นห้องน้ำและห้องครัว เนื่องจากเป็นห้องที่มีความชื้นสูง อาจทำให้วอลเปเปอร์หลุดร่อนหรือขึ้นราได้

6. วอลเปเปอร์เนื้อโฟม เนื้อวอลเปเปอร์จะหนาและมีลายนูนออกมา นิยมใช้ติดเพดานเพราะมีคุณสมบัติช่วยเก็บเสียง

ขอขอบคุณ Room ฉบับเดือนพฤศจิกายน คอลัมน์ Smart buy  roommag.com

ขอบคุณสำหรับข้อมูล สาระน่ารู้  จาก ไทยรัฐออนไลน์


เรียบเรียงโดย ร้าน It me art
คลิกชมสินค้าเพิ่มเติมได้ที่  www.itmeart.com